Last updated: 15 พ.ย. 2568 | 14 จำนวนผู้เข้าชม |
“ทวี”ลงพื้นที่วังน้ำเขียว รับฟังความเห็นชาวบ้านกว่า 300 คน หวังคลี่คลายความขัดแย้ง ปชช.ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐด้านที่ดินฯ คาดหวังเสนอร่างกฎหมายเข้าสภา 12 ธ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ศาลาประชาคมบ้านไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นประธานการประชุมเพื่อรับฟังความเห็นจากภาคประชาชนในพื้นที่ โดยมีประชาชนกว่า 300 คน เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น
อย่างเข้มข้น
ภายหลังการประชุม พ.ต.อ. ทวี เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการพิจารณาร่างกฎหมายว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีแผนที่จะนัดประชุมรับฟังความเห็นเพิ่มเติม เพื่อให้ร่างกฎหมายฉบับนี้สามารถอำนวยความยุติธรรมและเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยคณะกรรมาธิการฯ คาดหวังว่าจะสามารถเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 และวาระ 3 ในวันที่ 12 ธ.ค.68 ที่จะมีการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องการดูพื้นที่จริงเพื่อให้กฎหมายที่จะออกมาสามารถให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายได้ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะครอบคลุมประชาชน 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.) กลุ่มผู้ได้รับการผ่อนผันตามเงื่อนไขของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2541 หรือ 2.) ผู้ที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในบริเวณพื้นที่สงวนหวงห้ามนั้นเพื่อตนเอง ก่อนมีคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 โดยไม่มีลักษณะที่เข้าข่ายเป็นนายทุน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว มีประชาชนถึง 353 คน ที่ถูกจับกุมและดำเนินคดี ทั้งที่อยู่ในระหว่างรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. ที่ผ่านมา ข้าราชการไม่ได้ดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ตามเวลาที่ควรจะเป็น ทำให้ประชาชนต้องรอความยุติธรรมมานานกว่า 20 ปี
"หลักการพื้นฐานที่สำคัญคือ ประชาชนที่อยู่ก่อนการประกาศเขตห้าม ควรได้รับการพิสูจน์สิทธิ์โดยรวดเร็ว ไม่ใช่ปล่อยให้รอความยุติธรรมที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด"
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายว่า ไม่ได้มาเพื่อส่งเสริมให้นายทุนบุกรุกป่า แต่มาเพื่อ คุ้มครองสิทธิชุมชน ของผู้ที่อยู่มาก่อนอย่างชอบธรรม โดยเฉพาะกรณีที่ป่าเกิดขึ้นจากฝีมือชาวบ้านปลูกเอง หากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ จะเป็นทางที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนที่ถูกตัดสินจำคุกให้ได้สิทธิ์คืน.
13 พ.ย. 2568