"พลเอกสวัสดิ์"นำทีม สว. ลงพื้นที่"สุโขทัย"รับฟังปัญหาอุทกภัย

“พลเอกสวัสดิ์”นำทีม สว.ลงพื้นที่สุโขทัยรับฟังปัญหาอุทกภัย ก่อนส่งต่อหน่วยงานเร่งคลี่คลายสถานการณ์ชาวบ้านประสบภัยในพื้นที่

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กลุ่มภาคเหนือ (ตอนล่าง) นำคณะกรรมการโครงการฯ ลงพื้นที่ดูปัญหา​อุทกภัย​ ถนน​ และโครงสร้าง​พื้นฐานชำรุด​เสียหาย​ ​น้ำกั​ดเซาะ​ตลิ่ง​ทรุดตัว​พังทลาย​ และน้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน​ และพื้นที่เกษตรกรรม​ ในจังหวัดสุโขทัย โดยมีการนำเสนอปัญหาจากผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่รับผิดชอบ จากนั้นคณะเดินทางไปพบปะกับประชาชน เพื่อรับฟังประเด็นปัญหาความเดือดร้อน ณ หอประชุมโรงเรียนวัดปากน้ำ ตำบลปากน้ำ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัยโดยมี นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย และและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชนในครั้งนี้ด้วย

สำหรับประเด็นปัญหาจากการรับฟัง การแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ มีดังนี้ 1. ปัญหาเรื่องคันคลองแม่น้ำยมสายเก่า หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 8 และฝั่งคลองแม่น้ำยมสายเก่า หมู่ที่ 7 ตำบลปากน้ำ คันคลองชำรุดเนื่องจากน้ำกัดเชาะทำให้ดินถล่มสไลด์ลงคลองแม่น้ำยมสายเก่า ถนนคันคลองชำรุด รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และหากเกิดการพังทลายจะทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 2. ปัญหาตลิ่งพัง ดินถล่ม และปัญหาน้ำท่วม หมู่ที่ 10 และ 11 ทำให้น้ำล้นตลิ่งช่วงฤดูน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัยของประชาชน เกิดความเสี่ยงเป็นบริเวณกว้าง

3. ปัญหาด้านการบริหารจัดการน้ำ หมู่ที่ 12 ประชาชนเดือดร้อนเรื่องบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากหาดสะพานจันทร์ ผันน้ำเข้ามาที่คลองปลาร้า หมู่ที่ 5 ตำบลในเมือง ไหลไปยังตำบลปากน้ำ มุ่งหน้าสู่บึงลับแลบริเวณหมู่ที่ 12 ความยาว 800 เมตร กว้าง 5 เมตร ซึ่งเป็นคอขวดและมีวัชพืชหนาแน่น 4. ปัญหาน้ำประปาหมู่บ้านหมู่ที่ 6 ไม่เพียงพอต่อการอุปโภค-บริโภค ไม่สะอาดและขุ่น ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนประมาณ 200 ครัวเรือน

5.ปัญหาการระบายน้ำ และการสัญจร หมู่ที่ 3 เนื่องจากท่อระบายน้ำที่มีอยู่เดิมชำรุด ไม่สามารถระบายายน้ำได้ทันในช่วงช่างฤดูน้ำหลาก และถนนทางข้ามคลองทรุดตัว ทำให้สัญจรไปมาลำบาก 6. ปัญหาการสัญจร หมู่ที่ 1 ถนนสายหน้าศาลาเอนกประสงค์ถึงโค้งยายพื้น ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร มีความชำรุดมาก พื้นผิวถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ เสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเวลาเดินทางไปทำการเกษตร เพราะถนนสายนี้มีพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 800 ไร่

ทั้งนี้สมาชิกวุฒิสภา ได้ให้ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบและพี่น้องประชาชน โดยวุฒิสภาจะได้นำข้อมูลจากการรับฟังในครั้งนี้ไปดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาต่อไป.