"กมธ.กฎหมายฯ วุฒิสภา"วอนนายกฯ -ผบ.ตร. เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนพนง.สอบสวน

Last updated: 30 พ.ค. 2568  |  345 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"กมธ.กฎหมายฯ วุฒิสภา"วอนนายกฯ -ผบ.ตร. เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนพนง.สอบสวน

กมธ.กฎหมายฯ วุฒิสภา ออกโรงวอนนายกฯ -ผบ.ตร. เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนพนง.สอบสวน สตช. พ่วงปรับเปลี่ยน ตร.ยศ “ร้อยตำรวจเอก” เป็น “พันตำรวจตรี” ก่อนเกษียณ 6 เดือน หวังปูนความชอบดึความชอบทำงานเสียสละ พร้อมคำนวณบำเหน็จบำนาญหลังเกษียณเต็มที่

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ห้องแถลงข่าวสื่อมวลชน ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (ฝั่ง สส.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา นำโดย พลตำรวจโทบุญจันทร์ นวลสาย ประธานคณะกรรมาธิการ แถลงข่าวเรื่อง "กรณีปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เนื่องจากเป็นวิกฤตสำคัญของกระบวนการยุติธรรมไทยที่มีผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและภาพลักษณ์ของตำรวจ โดยเฉพาะเมื่อมีแนวโน้มให้ลดบทบาทหรือตัดงานสอบสวนของตำรวจในบางส่วน ซึ่งควรพิจารณารอบด้าน ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันมีพนักงานสอบสวนทั่วประเทศไม่ถึง 8,000 คน แต่ต้องรับคดีใหม่เฉลี่ยเกิน 1,000,000 คดี/ปี ซึ่งบางโรงพักมีพนักงานสอบสวน 2-3 คน แต่ต้องทำคดีวันละหลายคดี ทั้งคดีอาญาเบาและหนัก



จากการลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการฯ เพื่อรับฟังปัญหาการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ พบว่า พนักงานสอบสวนมีภาระงานล้นมือจนเกิดความเครียด บางรายเป็นผู้ป่วยจิตเวชและเป็นโรคซึมเศร้า บางรายมีประวัติคิดสั้น โดยสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์มีกรอบอัตรากำลังพนักงานสอบสวนจำนวน 29 นาย แต่มีพนักงานสอบสวนครองตำแหน่งจริงเพียง 15 นาย ปฏิบัติงานเข้าเวรจริง 11 นาย โดยเป็นผู้ป่วยจิตเวช 5 นาย ทำให้พนักงานสอบสวนมีภาระงานเกินจำนวนบุคลากร

ที่ผ่านมาโรงพักมีสถิติคดีอาญาประมาณ 10,000 คดี/ปี เฉลี่ยแล้วพนักงานสอบสวน 1 นาย ต้องรับผิดชอบคดีมากกว่า 1,000 คดี/ปี ส่งผลให้คดีเกิดความล่าช้า ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวเกินเวลาที่ควร เหยื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม และส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้มีการลาออกและขอย้ายสายงานเป็นจำนวนมาก



ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว พร้อมเร่งปฏิรูปงานสอบสวน เพิ่มตำแหน่งพนักงานสอบสวนสายสอบสวนโดยเฉพาะที่ไม่รวมกับสายอื่น และนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในเรื่องกระบวนการยุติธรรมให้เข้าถึงได้รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์

ด้านพลตำรวจโทวันไชย เอกพรพิชญ์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ได้เสนอการปรับเปลี่ยนยศของเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตำรวจเอกเป็นพันตำรวจตรีก่อนเกษียณหกเดือน สืบเนื่องจากการปลดเกษียณในยศร้อยตำรวจเอกอาจไม่สอดคล้องกับระยะเวลารับราชการในสายสัญญาบัตร และทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับผู้ที่เติบโตในสายสัญญาบัตรโดยตรง ส่งผลต่อภาระงบประมาณบำนาญในระยะยาว

ดังนั้นขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ปรับเปลี่ยนการปลดเกษียณเป็นยศพันตำรวจตรีล่วงหน้า 6 เดือนก่อนเกษียณ สำหรับผู้ที่ติดยศร้อยตำรวจเอกและเกษียณในปีนั้น ซึ่งเป็นการให้ยศเกียรติยศเท่านั้น ไม่ใช่การแต่งตั้งตำแหน่งหรือหน้าที่ และเพื่อใช้ยศในการคำนวณบำเหน็จบำนาญหลังเกษียณที่จะเป็นการสร้างแรงจูงใจและให้เกียรติและยกย่องข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้