"กมธ.วิสามัญฯ วุฒิสภา"ถกปม Entertainment Complex ลับมีดรอ รมต.เกี่ยวข้องแจง

กมธ.วิสามัญฯ วุฒิสภา รุกถกปม Entertainment Complex ตั้งประเด็นศึกษาผลได้เสียเข้มข้น-ลับมีดรอ รมต.ที่เกี่ยวข้องแจง พ่วงซักอดีตนายกฯถึงแนวคิดให้สิ้นสงสัย

เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ห้องแถลงข่าวสื่อมวลชน ชั้น 1 (ฝั่ง สส.) คณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) วุฒิสภา โดยนาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ และนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล โฆษกคณะกรรมาธิการฯ แถลงสรุปผลการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) วุฒิสภา ครั้งที่ 3

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล โฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้มีหนังสือกราบเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริง โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุมแทน และได้มอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมแทน แต่เนื่องจากติดภารกิจต้องร่วมคณะเดินทางพร้อมกับนายกรัฐมนตรี ในการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จึงขอเลื่อนการเข้าร่วมประชุมเป็นวันพฤหัสบดีที่ 5 มิ.ย.2568

สำหรับการประชุมในวันนี้ได้มีการพิจารณากำหนดประเด็นคำถามในภาพรวมเพื่อนำไปศึกษาให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) โดยเป็นการนำเสนอแนวความคิดจากกรรมาธิการวิสามัญผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน ได้แก่ 1) รองศาสตราจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญ และ 2) นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จะนำประเด็นที่ได้รับในวันนี้ส่งมอบให้คณะอนุกรรมาการที่ตั้งที่ขึ้น 2 คณะ ไปพิจารณาศึกษาในรายละเอียดต่อไป

นอกจากนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เห็นควรเชิญบุคคลมาร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อมูลว่าสมัยที่ดำรงตำแหน่งอยู่มีความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการจัดตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจรที่มีกาสิโนหรือไม่ และคิดเห็นกับนโยบายนี้อย่างไร 2) อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานวุฒิสภา เพื่อสะท้อนมุมมองของฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งด้านข้อกฎหมาย และมุมมองเกี่ยวกับการใช้อำนาจควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และ 3) นักวิชาการ หรือผู้แทนองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น หากมีการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย

สำหรับการพิจารณาตั้งคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 2 คณะ ได้แก่ 1) คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบทางด้านสังคมและกฎหมายของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและการพนันออนไลน์ และ 2) คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบและความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและการพนันออนไลน์ ซึ่งทั้ง 2 คณะอนุฯ จะนำประเด็นคำถามการศึกษาตามที่กรรมาธิการวิสามัญฯ ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน ได้นำเสนอไปดำเนินการศึกษาในรายละเอียดต่อไป โดยให้เริ่มพิจารณาศึกษาเป็นคู่ขนานไปได้เลย

ทั้งนี้ในการประชุมครั้งต่อไปก็จะนำความคืบหน้าการทำงานมารายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดใหญ่ เพื่อรับข้อเสนอแนะและกลับไปดำเนินการต่อ เพื่อให้ได้ผลการศึกษาที่ครบถ้วนรอบด้านต่อไป โดยในการประชุมแต่ละครั้งจะขอให้กรรมาธิการวิสามัญฯ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้นำเสนอข้อคิดเห็น หรือประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาศึกษาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และศาสตราจารย์พิเศษจรัญ ภักดีธนากุล กรรมาธิการวิสามัญฯ

นอกจากนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้กำหนดนัดประชุมครั้งต่อไป ในวันพฤหัสบดีที่ 29 พ.ค.นี้ ซึ่งการประชุมจะเป็นไปโดยเปิดเผย ประชาชนที่สนใจสามารถติดตามตรวจสอบได้ รวมทั้งอนุญาตให้สื่อมวลชนสามารถเข้าร่วมรับฟังการประชุมและเผยแพร่ข่าวสารการประชุมได้ เว้นแต่การประชุมครั้งใดที่อาจต้องมีการประชุมเป็นเรื่องลับ

ด้านนาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ในวันนี้ได้มีการพูดคุยถึงความคุ้มค่าของการการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) รวมทั้งควรมีการทำประชาพิจารณ์และประชามติในแต่ละพื้นที่ ๆ ที่จะไปสร้างด้วยหรือไม่ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าควรต้องมีการพิจารณาให้รอบด้านถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย.