"สว."ห่วงสังคมเข้าใจผิด ยันวุฒิสภาไม่ได้รับงบอบรมภาษาจีน

สว.ห่วงสังคมเข้าใจผิด ยันวุฒิสภาไม่ได้รับงบอบรมภาษาจีน ชี้ทุกโครงการผลประโยชน์ชาติ และประชาชนต้องมาก่อน

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ห้องแถลงข่าวสื่อมวลชน ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (ฝั่ง ส.ส.)สมาชิกวุฒิสภา นำโดยนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงถึงกรณีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีประเด็นที่ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดต่อวุฒิสภา โดยชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

1.โครงการพัฒนาระบบโรงภาพยนตร์ 4D จำนวน 180 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับปรุงห้องสารนิเทศให้มีความทันสมัย สำหรับใช้เป็นสถานที่ให้ความรู้และแนะนำข้อมูลแก่ผู้มาเยี่ยมชมอาคารรัฐสภา เป็นการจัดทำคำของบประมาณโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 2.โครงการพัฒนาทักษะภาษาจีนสำหรับสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 2,363,900 บาท ถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจด้านการต่างประเทศและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศจีนซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งเป็นการตั้งงบประมาณโดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แต่ปัจจุบันโครงการนี้ไม่ได้รับการอนุมัติงบประมาณ

3.การจัดสรรงบประมาณสำหรับเบี้ยประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ซึ่งปฏิบัติภารกิจในการเผยแพร่ให้ประชาชนได้ตระหนักรู้และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งได้จัดทำประมาณการเช่นเดียวกับการประมาณการเบี้ยประชุมคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา จำนวน 21 คณะ และเบี้ยประชุมคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 35 คณะ หากมีการงดประชุมในสัปดาห์ใดก็ไม่สามารถเบิกจ่ายเบี้ยประชุมได้เช่นเดียวกัน

นายพิสิษฐ์ ยังยืนยันด้วยว่า สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 200 คน ไม่มีสิทธิอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินการในเรื่องใด ๆ การจัดทำคำของบประมาณเป็นไปเพื่อรองรับภารกิจของวุฒิสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน.