Last updated: 28 พ.ย. 2568 | 151 จำนวนผู้เข้าชม |
‘ตรีนุช’ รมว.แรงงาน สั่งการ สปส. ออกมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง–ผู้ประกันตนประสบอุทกภัยภาคใต้
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการนางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตนให้มากที่สุด พร้อมยืนยันว่าทุกมาตรการจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า จากนโยบายของนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด สำนักงานประกันสังคมได้มีมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน โดยเฉพาะการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย สำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ทำให้ไม่สามารถทำงานได้หรือสถานประกอบการต้องหยุดกิจการชั่วคราว โดยผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน สูงสุดไม่เกิน 180 วัน
ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถยื่นแบบคำขอพร้อมหนังสือรับรองจากนายจ้างผ่านสำนักงานประกันสังคมพื้นที่ รวมถึงกรณีผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่เสียชีวิตด้วยเหตุที่ไม่เนื่องจากการทำงาน ทายาทของผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคมเป็นค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย สำหรับผู้ประกันตนที่มีการส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 36 เดือนขึ้นไป อีกทั้งเงินบำเหน็จชราภาพ เพื่อให้ครอบครัวได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วที่สุด สำหรับกรณีตาย หากเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 จะได้รับค่าทำศพ 25,000 บาท ส่วนทางเลือกที่ 3 ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท พร้อมเงินบำเหน็จชราภาพในทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3
โดยสำนักงานประกันสังคมยังมีโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานระยะที่ 3 (พ.ศ. 2568–2569) วงเงินโครงการรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่รักษาระดับการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง โดยให้สถานประกอบการที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือนติดต่อกันเข้าร่วมโครงการ และกำหนดให้รักษาการจ้างงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ในช่วง 3 ปีแรกของสัญญา โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อสูงสุดแตกต่างกันตามขนาดของธุรกิจ ตั้งแต่ 15 ล้านบาท สูงสุดถึง 50 ล้านบาท ซึ่งอัตราดอกเบี้ยใน 3 ปีแรกกรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกันสูงสุดไม่เกินร้อยละ 2.35 ต่อปี และกรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือใช้บุคคลค้ำประกันสูงสุดไม่เกินร้อยละ 4.75 ต่อปี สำหรับอัตราดอกเบี้ยในปีที่ 4 เป็นต้นไป เป็นไปตามที่แต่ละธนาคารกำหนด โดยการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ปัจจุบันมีสถานประกอบการได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 616 แห่ง รวมวงเงิน 6,270.64 ล้านบาท สามารถช่วยรักษาการจ้างงานลูกจ้างกว่า 82,771 คน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ย้ำว่า สำนักงานประกันสังคมจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งขับเคลื่อนมาตรการช่วยเหลือและฟื้นฟูในทุกด้าน เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ได้รับความคุ้มครองและสามารถกลับคืนสู่ชีวิตปกติได้โดยเร็วที่สุด.