"รมว.แรงงาน"มอบหมาย สปส.เร่งดัน โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 3

Last updated: 10 พ.ย. 2568  |  195 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"รมว.แรงงาน"มอบหมาย สปส.เร่งดัน โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 3

“ตรีนุช” รมว.แรงงาน มอบหมาย สปส.เร่งดันโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 3 อนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท ครอบคลุมลูกจ้างกว่า 65,000 ราย

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานตระหนักถึงความสำคัญของโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือสถานประกอบการให้สามารถรักษาระดับการจ้างงาน และสร้างโอกาสในการจ้างงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความมั่นคงในอาชีพให้กับแรงงาน และระบบเศรษฐกิจประเทศ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เร่งผลัดดันและติดตามความก้าวหน้า “โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 3” อย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ด้านนางสาวกาญจนา พูลแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานเป็นมาตรการสำคัญ ที่สำนักงานประกันสังคมดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการคงการจ้างงานเดิมไว้ รวมถึงเปิดโอกาสให้เกิดการจ้างงานใหม่ในระบบประกันสังคม โดยความคืบหน้าโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา มีสถานประกอบการที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 507 แห่ง รวมวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติทั้งสิ้น 5,013.50 ล้านบาท ครอบคลุมลูกจ้างจำนวน 65,127 ราย โดยสถานประกอบการส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีจำนวนลูกจ้างไม่เกิน 200 คน นอกจากนี้ ยังมีสถานประกอบการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาสินเชื่อจากธนาคาร จำนวน 229 แห่ง ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 3 (พ.ศ.2568 – 2569) จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร,ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย,ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน),ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) และยังมีธนาคารอีก 1 แห่ง แสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการประกันสังคมในวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568

โครงการฯ นี้เปิดให้สถานประกอบการที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือนติดต่อกัน และให้คำมั่นจะรักษาการจ้างงานไม่น้อยกว่า 80% ตลอดระยะเวลาสัญญา โดยมีวงเงินสินเชื่อต่อรายแบ่งตามขนาดธุรกิจ ได้แก่ สถานประกอบการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน สามารถกู้ได้สูงสุด 15 ล้านบาท, กรณีมีลูกจ้าง 201–500 คน วงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท และสำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างมากกว่า 500 คนขึ้นไป วงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท ในด้านอัตราดอกเบี้ย สถานประกอบการที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ไม่เกิน 2.35% ต่อปีในช่วง 3 ปีแรก ขณะที่กรณีไม่มีหลักทรัพย์หรือใช้บุคคลค้ำประกัน ดอกเบี้ยไม่เกิน 4.75% ต่อปี โดยเฉพาะลูกค้าเดิมของ EXIM Bank ที่มีประวัติการชำระเงินดีจะได้รับสิทธิพิเศษ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดไม่เกิน 2.00% ต่อปี ส่วนปีที่ 4 เป็นต้นไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยตามที่แต่ละธนาคารกำหนด

นางสาวกาญจนา กล่าวต่อว่า “สำนักงานประกันสังคมมุ่งมั่นดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามและประเมินผลโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าสถานประกอบการที่ได้รับสินเชื่อนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ และเกิดประโยชน์ให้กับแรงงานอย่างแท้จริง ยืนยัน เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการทุกภาคส่วนเพื่อสร้างเสถียรภาพให้ตลาดแรงงานและระบบประกันสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน”

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้