"รมว.ตรีนุช"ส่งโฆษก ก.แรงงาน"ดร.บุณณดา" ตรวจเยี่ยมผู้ทุพพลภาพ-ย้ำดูแลอย่างทั่วถึง

“รมว.ตรีนุช” ส่งโฆษก ก.แรงงาน “ดร.บุณณดา” ตรวจเยี่ยมผู้ทุพพลภาพในระบบประกันสังคม เน้นย้ำ! ก.แรงงาน ดูแลอย่างทั่วถึง

วันที่ 6 พ.ย.นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ดร.มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา และนายกานต์ กิตติอำพน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนทุพพลภาพร่วมกับสำนักงานประกันสังคม นำโดย นางสาวสุทธิกานต์ บุญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 นางบุญเรือง โรจนศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 1 ผู้บริหารส่วนกลางสำนักงานประกันสังคม นักกายภาพบำบัด นักจิตวิทยาและเจ้าหน้าที่ ร่วมลงพื้นที่

ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตามนโยบายของ ท่านตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มีความห่วงใยและให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคน รวมถึงผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เป็นผู้ทุพพลภาพ ในวันนี้จึงได้มอบหมายให้ตนพร้อมคณะ ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานประกันสังคมเพื่อเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมชี้แจงสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากสำนักงานประกันสังคม ทั้งเงินทดแทนการขาดรายได้ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าพาหนะรับส่ง รวมถึงการเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพจากศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานทั้ง 5 แห่ง ทั้งนี้ ยังได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น มามอบให้อีกด้วย

โดยในวันนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกันตนทุพพลภาพ ที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 จำนวน 5 ราย ได้แก่ นายบุ้นฮั้ว บำรุงกิจการ อายุ 73 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอาการเส้นเลือดในสมองตีบ เป็นเหตุให้แขนและขาข้างขวาอ่อนแรง เดินได้โดยใช้เครื่องช่วยพยุง สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายร้อยละ 50 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2555 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 7,500 บาท ตลอดชีวิต

รายที่ 2 นายไพโรจน์ จังสถิตย์กุล อายุ 44 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุตกจากที่สูง เป็นเหตุให้แขนขาอ่อนแรง และมีอาการหลงลืม สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายร้อยละ 50 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2560 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 7,500 บาท ตลอดชีวิต รายที่ 3 นายชัยวัฒน์ พงษ์แสงสน อายุ 70 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก เป็นเหตุให้แขนและขาอ่อนแรง เดินได้โดยใช้เครื่องช่วยพยุง สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายร้อยละ 50 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2544 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 7,500 บาท ตลอดชีวิต

รายที่ 4 นายสกล บุญโชคเจริญศรี อายุ 67 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นเหตุให้แขนและขาขวาอ่อนแรง เดินได้โดยใช้เครื่องช่วยพยุง สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายร้อยละ 50 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2554 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 2,499 บาท ตลอดชีวิต  และรายที่ 5 นายสวัสดิ์ นาคาแก้ว อายุ 71 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอาการเนื้อสมองตาย เป็นเหตุให้ไม่สามารถเดินได้ แต่สามารถลุกนั่งได้โดยมีคนพยุง ไม่สามารถขับถ่ายได้ สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายร้อยละ 70 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 4,965 บาทตลอดชีวิต

ด้านนางสาวสุทธิกานต์ บุญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมให้การดูแลสิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพให้กับผู้ประกันตนทุกมาตรา ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 โดยมุ่งหวังให้พี่น้องผู้ประกันตนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจ ไร้ความกังวล สามารถเข้าถึงสิทธิตามกฎหมาย แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับผู้ประกันตนทุพพลภาพทุกรายโดยเท่าเทียมกัน.