กมธ.การศึกษาฯ วุฒิสภา เคาะเดือน ธ.ค.นี้เสนอกระทรวงอว. คลอดคัมภีร์ต่อยอดปั้นโครงการครู "Smart Teacher

กมธ.การศึกษาฯ วุฒิสภา เคาะเดือน ธ.ค.นี้ เสนอกระทรวง อว.คลอดคัมภีร์ต่อยอดปั้นโครงการครู "Smart Teacher” หลังผนึกกำลัง มศว.-สพฐ. เคาะกรอบหลักสูตร ป.โท-เอก ผ่านฉลุย

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.คณะกรรมาธิการ (กมธ.)การศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)วุฒิสภา จัดการประชุมคณะทำงานจัดทำข้อเสนอ “โครงการทุนพัฒนาครู Smart Teacher” ครั้งที่ 1/2568 นำโดย ดร.กมล รอดคล้าย ประธานคณะกรรมาธิการ และประธานคณะทำงาน พร้อมด้วยคณะทำงานจากวุฒิสภา ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.)

โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนข้อสรุปจาก "สมุดปกขาว (White Paper) ว่าด้วยทิศทางการศึกษาไทย" โดยเฉพาะในประเด็นการเพิ่มศักยภาพเด็กไทย ซึ่งต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาครูให้เป็น "Smart Teacher" โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก "กองทุนพัฒนาการอุดมศึกษา" สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

ดร.กมล กล่าวถึงเป้าหมายของโครงการว่า เราไม่ต้องการสร้างครูใหม่ แต่ต้องการพัฒนาครูให้สุดยอดกว่าเดิม โดยเน้นการให้ทุนแก่ครูประจำการที่มีศักยภาพ เพื่อยกระดับให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษา

ที่ประชุมได้พิจารณากรอบหลักสูตรที่นำเสนอโดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งจะเน้นรูปแบบหลักสูตรคู่ขนาน (Joint/Dual Degree Program) ทั้งในระดับปริญญาโท (ระยะเวลา 2 ปี) และปริญญาเอก (ระยะเวลา 3 ปี) ที่ผสมผสานการเรียนในประเทศ เข้ากับการไปศึกษาวิจัยในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ (เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) เป็นระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี โดยมีสาขาวิชานำร่องจากทั้งคณะศึกษาศาสตร์ (เช่น การบริหารการศึกษา, การศึกษาพิเศษ, จิตวิทยาการศึกษา) และคณะวิทยาศาสตร์ (สาขาวิทยาศาสตรศึกษา)

นอกจากนี้ ผู้แทนจาก สพฐ. ได้เสนอเป้าหมาย 3 กลุ่มหลักที่ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องการ ได้แก่ 1) ครูผู้สอน ในสาขาที่จำเป็นและขาดแคลน เช่น ปฐมวัย วิทยาศาสตร์ 2) ผู้นำทางการศึกษา ที่จะเติบโตไปเป็นผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารเขตพื้นที่ฯ และ 3) กลุ่มสนับสนุนการสอน เช่น ศึกษานิเทศก์ เพื่อให้เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษา

ทั้งนี้คณะทำงานฯ ได้กำหนดกรอบเวลาการดำเนินงาน โดยจะมีการประชุมเพื่อยกร่างข้อเสนอฉบับสมบูรณ์อีก 2 ครั้งภายในเดือนพ.ย.และตั้งเป้าหมายที่จะนำเสนอข้อเสนอโครงการฉบับสมบูรณ์ต่อกระทรวง อว. ภายในต้นเดือนธ.ค. 2568 เพื่อผลักดันให้เกิดการอนุมัติงบประมาณและเริ่มดำเนินการคัดเลือกครูเข้าร่วมโครงการได้ภายในปีการศึกษา 2570.