Last updated: 2 พ.ย. 2568 | 7 จำนวนผู้เข้าชม |
สมาชิกวุฒิสภาสายทหารฯห่วงสถานการณ์ความรุนแรงภาคใต้ เหตุนโยบาย มทภ.4 เกาไม่ถูกที่คัน ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาพื้นที่ หวั่น “นราธิวาส”ความรุนแรงพุ่ง จี้ปรับแผนรับมือ “บีอาร์เอ็น”ให้ทันท่วงที
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)กลุ่มสื่อสารมวลชน ในฐานะเลขานุการและโฆษกกรรมาธิการ(กมธ.)ทหารและความมั่นคง วุฒิสภา กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีเหตุการณ์วางระเบิดถี่เพิ่มขึ้นว่า ล่าสุดมีการวางระเบิดจุดตรวจยุทธศาสตร์บ้านปาลัต ต.ปาลัต อ.มายอ จ.ปัตตานี ที่สร้างความเสียหายให้ป้อมยามจุดตรวจ และบ้านเรือนประชาชน 17 หลังรถจักรยานยนต์ (จยย.)อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งการยิงทหารพรานเสียชีวิต ที่อ.เจาะไอร้อง ยิงฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ที่ ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ วางเพลิงเผารถยนต์บริษัทรับเหมาก่อสร้างถนนที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และโจมตีจุดตรวจ ชตค.ที่บ้านน้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี รวมทั้งการทำลายกล้อง ซีซีทีวี. เป็นจำนวนมากในพื้นที่ จ.นราธิวาส และ”จ.ปัตตานี

ขอเรียกร้องให้ พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งทำหน้าที่ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีการตรวจสอบสถานการณ์ และปรับแผนในการรับมือการก่อการร้ายรายวันของกองกำลังติดอาวุธบีอาร์เอ็น ซึ่งผมทราบมาว่าจะมีการก่อเหตุรายวันตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2568 โดยมีการสั่งการให้แนวร่วมรุ่นใหม่ ที่ผ่านการฝึกอาวุธและก่อวินาศกรรมปฏิบัติการ ฝนสร้างสถานการณ์ด้วยระเบิดแสวงเครื่อง ระเบิดไปป์บอมบ์และการซุ่มโจมตีฐานปฏิบัติการของ ชคต.และ นปพ.รวมทั้งวางเพลิงวางระเบิดเครื่องจักกลของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพื่อทำลายพื้นที่เศรษฐกิจ ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่ออำนาจรัฐ
ล่าสุดแกนนำบีอาร์เอ็นได้สั่งการให้กองกำลังติดอาวุธ ฆ่าเป้าหมายที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่าย ที่เดินทางไป-มา คนเดียว ฆ่าสายข่าวที่เป็นประชาชนในพื้นที่ ฆ่าผู้มีพฤติกรรมติดยาเสพติดที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเพื่อสร้างคะแนนนิยมต่อประชาชน ในส่วนของแนวร่วมที่เป็นเยาวชนชาย-หญิง ที่เรียกว่าเปอร์มูดอ และเปอร์ดูดีให้ปฏิบัติการทำลายกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ให้หมดสิ้น ให้เยาวชนหญิงทำหน้าที่สายข่าวและ ติดตามความเคลื่อนไหว ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แทนเยาวชนชายที่กำลังตกเป็น เป้าหมายของเจ้าหน้าที่และมีการเปลี่ยนแปลงการเก็บเงินรายเดือนจากสมาชิกในพื้นที่ให้เยาวชนหญิงทำหน้าที่แทน
นายไชยยงค์ กล่าวว่า พล.ท.นราธิป โพยนอก เข้ามารับผิดชอบในการดับไฟใต้ เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ซึ่งนโยบายในการดับไฟใต้ยังไม่ตอบโจทย์ของปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะยังไม่มีแนวทางใหม่ๆ เพื่อรับมือการ ปฏิบัติการของบีอาร์เอ็น การโยกย้ายผู้นำหน่วยคนเก่าและแต่งตั้งผู้นำหน่วยคนใหม่ ส่วนใหญ่เป็นพวกพ้อง ไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ การแต่งตั้ง ผอ.กองข่าวที่เป็นหัวใจสำคัญมาจากส่วนกลางที่ถูกมองว่ามาเพื่อบริหารงบประมาณมากกว่าการสร้างประสิทธิภาพของงานการข่าว รวมทั้งทีมที่ปรึกษาที่ไม่มีความโดดเด่น รวมทั้งการการแก้ปัญหาของไฟใต้ยังอยู่ในบริบทเดิมๆ เน้นที่ผู้นำศาสนาเก่าๆเดิมๆ ที่ปรึกษามาแล้ว 21 ปี แต่ไม่มีประโยชน์อะไร
อยากให้แม่ทัพภาคที่ 4 เปลี่ยนกลยุทธ์เปลี่ยนนโยบายใหม่ๆ ที่สามารถเอาชนะ ฝ่ายของบีอาร์เอ็น ได้และสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือการ ถอนกำลังของฉก.นราธิวาสที่เป็นกำลังพลของกองทัพภาคที่ 4 จาก พล.ร.15 ออกจาก จ.นราธิวาส โดยนำกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 4 เข้ามารับผิดชอบพื้นที่ จ.นราธิวาส เนื่องจากผบ.ฉก.นราธิวาสคนใหม่ มาจาก”รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นเรื่องที่น่าห่วงใยต่อความรุนแรงใน จ.นราธิวาส ซึ่งหากสามารถใช้กองกำลังจากนอกพื้นที่ มาแก้ปัญหาความรุนแรงใน จ.นราธิวาสได้ก็ดี แต่ถ้าแก้ไม่ได้ก็จะทำให้พื้นที่ จ.นราธิวาสมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะกองกำลังติดอาวุธของบีอาร์เอ็นมีความ เข้มแข็ง และจ.นราธิวาส คือ ฐานใหญ่ของบีอาร์เอ็น เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดชายแดนรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียเป็นเส้นทางเข้า-ออกและส่งกำลังบำรุงของบีอาร์เอ็น ดังนั้นพื้นที่ของ จ.นราธิวาส จึงน่าเป็นห่วง จึงขอให้แม่ทัพภาคที่ 4 เข้าใจถึงปัญหาและเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว.
ขอบคุณภาพ..."ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล"สมาชิกวุฒิสภา
2 พ.ย. 2568