"โฆษก กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา"เดือด อัดรัฐบาลแก้ปัญหาไฟใต้เหลว

Last updated: 13 ต.ค. 2568  |  131 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"โฆษก กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา"เดือด อัดรัฐบาลแก้ปัญหาไฟใต้เหลว

โฆษก กมธ.ทหารฯ วุฒิสภาเดือด รัฐบาลแก้ปัญหาไฟใต้เหลว สับเละหน่วยงานรัฐบูรณาการทำงานไม่จริง การข่าวบอด แก้ปัญหาพื้นที่ไม่ตรงจุด หนำซ้ำจนท.เกียร์ว่าง เข้าไม่ถึงแกนนำทำแผนเจรจาผิดฝาผิดตัว หนักสุดเอาไม่อยู่ซีลชายแดนปิดช่องทางธรรมชาติมีรูโหว่วเปิดทางผู้ก่อเหตุหลบซ่อน

เมื่อวันที่ 12 ต.ค.นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และโฆษกกรรมาธิการทหารฯ วุฒิสภากล่าวว่าสถานการณ์ก่อความไม่สงบชายแดนภาคใต้มีความถี่เพิ่มขึ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแม่ทัพภาค 4 คนใหม่หรือเก่า BRN ได้วางยุทธศาสตร์ไว้แล้ว 3 ข้อหลัก ที่นำมาปฏิบัติการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1.ทำลายสิ่งสาธารณูปโภคของรัฐ อาทิ วางเพลิงหรือวางระเบิด 2 .ทำลายเศรษฐกิจทางตั้งทางอ้อม การวางเพลิงต่างๆ ต่อไปอาจจะมีการวางระเบิดร้านค้าใหญ่ๆ ใน 7 หัวเมืองเศรษฐกิจของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ กอ.รมน.ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ แต่เราป้องกันไม่ได้และ 3.ทำลายสัญลักษณ์ของรัฐไทย โดย BRN ยึด 3 ทำลาย

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่าวันนี้เมื่อรู้ว่าแผนของ BRN อยู่ตรงนี้จะป้องกันอย่างไร ต้องรู้เขารู้เราคือรู้ว่า BRN จะก่อเหตุอะไร อย่างไร มาป้องกัน งานป้องกันของเราที่ล้มเหลวมาตลอดคืองานการข่าว ยกตัวอย่างวางแผน ข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก มาจากรัฐกลันตัน ปล้นร้านทองในบิ๊กซี ก่อนปล้นมีการวางแผนกัน ประสานงานกับกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ ประสานงานกับแนวร่วมที่เป็นแหล่งข่าว ก่อนปล้นหน่วยงานทหาร ตำรวจได้เบาะแสหรือไม่ ก็ไม่มี นี่คือความล้มเหลวที่ต้องมองให้ออกไปแก้

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่าขณะนี้แม่ทัพภาค 4 คนใหม่ พล.ท.นรธิป พวยนอก มีการสั่งการให้มีการปฏิบัติการด้านการข่าว ให้มีการวิเคราะห์เชิงลึก เข้าถึงกลุ่มขบวนการมากขึ้น นี่ถูกต้อง ตนเห็นว่าทุกแม่ทัพพูดอย่างนี้แหละ แต่งานการข่าวไม่ดีขึ้นเลย เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราและให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้าใจ ทำมาแล้ว 21 ปีไม่ได้ผล เราต้องการซีลแนวชายแดนมาทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุ แต่ไม่เคยซีลแนวชายแดนได้เลย

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่า เรื่องสร้างความเข้าใจ ตนถามว่าสร้างความเข้าใจกับใคร ต้องให้ชัด ถ้าสร้างความเข้ากับประชาชน ไม่ต้องพูด ถ้าตราบใดอำนาจของ BRN เข้มข้น ไม่ต้องไปสร้างความเข้าใจกับประชาชน เพราะประชาชนเข้าใจทุกเรื่อง แต่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือเพราะเขาเกรงกลัวอิทธิพลของ BRN กองทัพภาค 4 หรือ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าไม่เข้าใจ เขาเข้าใจมากกว่าเรา แต่เขาอยู่เป็น ตราบใดอำนาจรัฐไม่มีการสถาปนาให้มีความเข้มข้น ไม่ต้องสร้างความเข้าใจ แต่เขาไม่มาเป็นพวกเรา สิ่งที่แม่ทัพภาค 4 ต้องรู้ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา เกิดเหตุทุกครั้ง ก็มีการเข้มงวด แต่มีการเข้มงวดได้กี่วัน ก็ปล่อยเมื่อเกิดช่องว่างเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอีก มันก็เหมือนเดิมอีก

ขบวนการติดอาวุธมีเสรีในการเคลื่อนไหว เราไม่สามารถรักษาพื้นได้เลย เพราะเราไม่รู้ว่าโจรจะก่อเหตุพื้นที่ตรงไหน เมื่อไหร่และอย่างไร สุดท้ายแม่ทัพภาค 4 พูดเหมือนคนเดิม ให้ชุมชนผ่านสภาสันติสุข ให้ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชน ถามว่าวันนี้ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนไม่ เมื่อทหารแต่ละหน่วยต้องรักษาหน่วยของตัวเอง ไม่ได้ไปดูแลประชาชน

“เพราะเป้าหมายของขบวนการไม่ใช่ประชาชน เป้าหมายของขบวนการคือเจ้าหน้าที่รัฐและเป้าหมาย 3 จุดต้องไปดูแลหรือควบคุม ต้องรู้เขารู้เรา ในเรื่องรู้เขาเราไม่รู้เลย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการปล้นทอง ในการวางระเบิดสวนขวัญเมือง วางระเบิดตู้เอทีเอ็ม มีคนในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตมันเกิดจากการเกียร์ว่างหน่วยงานของรัฐในพื้นที่หรือไม่ การว่าเกียร์ว่างคืออยู่เฉยๆ ให้ขบวนการมีอิสระเสรีในการทำงาน ส่วนจะลองของหรือไม่ไปคิดเอาเอง”

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่า เพราะอยู่ในช่วงการโยกย้ายสับเปลี่ยนหน้าที่ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ผบ.ฉก.ก็มีการเปลี่ยน หลายๆหน่วยในพื้นที่ก็มีการเปลี่ยน กว่าคนใหม่จะทำงานเข้ารูปเข้ารอย การที่จะได้รับความร่วมมือจากประชาชนเกิดช่องว่างเราจะอุดช่องว่างอย่างไร วันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ลงมาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ก็ลงมาในพื้นที่ พูดเหมือนกัน 1.ให้มีการปฏิบัติการให้เข้มข้น ทุกครั้งเมื่อมีเหตุการณ์เข้มข้น โจรรู้ ในระหว่างนี้จะไม่มีเหตุไม่น้อยกว่า 7 วัน หลังจาก 7 วันไปแล้วสถานการณ์จะกลับมาเหมือนเดิมอีก มีช่องว่างให้โจรก่อเหตุได้อีก วัฎจักรของการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะวนเวียนอย่างนี้ ถ้าเราไม่มีนโยบายเอาชนะขบวนการก่อการร้ายที่แท้จริง วันนี้ยุทธศาสตร์ชนะ BRN คืออะไร ยังไม่มีคำตอบ

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่าการตั้งหัวหน้าพูดคุยสันติสุขจะถาม ว่าจะไปเจรจากับใคร ขบวนการในการเจรจามีป้ายหมายแล้วยัง หลังจากการแต่งตั้งแล้ว มีใครบ้าง เป้าหมายสำคัญคือเจรจากับใคร ถ้าเจรจากับคนที่มาเลเซียจัดตั้งมาก็ไม่ต้องไปเจรจา ให้ไปเจรจากับคนที่มีอำนาจของขบวนการ BRN คนที่มีอำนาจของ BRN มี 2-3 คน 1.ปราชญ์ขบวนการ BRN 2.เลขาธิการขบวนการ BRN 3. ผู้นำจิตวิญญาณ BRN หากเจรจาในพื้นที่เจรจาผู้นำกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีรายชื่ออยู่แล้ว แต่จะเข้าถึงหรือไม่ หากเจรจาผิดตัวก็เหมือนกับเจรจาที่ผ่านมาไม่เกิดผลประโยชน์อะไร ครั้งนี้ต้องกำหนดการเจรจาให้ถูกต้อง ไปเจรจากับใคร ถ้าไม่ใช่ตัวจริงก็ไม่ต้องเจรจา เพราะเจรจาผิดตัวไปไม่เกิดประโยชน์อะไร ไฟใต้มันก็ไม่ดับ

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่า ตนในฐานะกรรมาธิการทหารฯมองว่างานบูรณาการในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ยังบูรณาการไม่จริง หน่วยงานที่ทำงานบูรณาการตามตัวหนังสือ การร่วมมือแท้จริงยังไม่เกิดขึ้น ทำอย่างไรเอาฝ่ายปกครองมาร่วมในการแก้ปัญหาดับไฟใต้ ฝ่ายปกครองเป็นส่วนสำคัญในการดับไฟใต้มากๆ เชื่อว่าผู้นำท้องที่ท้องถิ่นรู้เรื่องทั้งหมดในพื้นที่ปกครอง ใครคือแนวร่วมในตำบลในหมู่บ้าน

“คนเป็นนายอำเภอต้องมีบทบาทรู้หน้าที่รักษาพื้นที่ งานการข่าวที่ดีที่สุดมาจากผู้นำท้องที่ หากผู้นำท้องที่ให้ความร่วมมืองานการข่าวกับหน่วยงานของรัฐ ผมคิดว่าไม่มีอะไรที่ไม่รู้ เราไม่ได้ใช้ฝ่ายปกครองมาทำหน้าที่ในการร่วมกันดับไฟใต้อย่างแท้จริง สังเกตหรือไม่อำเภอที่เกิดเหตุเยอะๆมีการย้ายผู้กำกับฯ นายอำเภอไม่เคยถูกย้าย ผบ.ฉก.ไม่เคยถูกย้าย ผู้ว่าฯมีบทบาทในการบูรณาการในเรื่องดับไฟใต้มากน้อยเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยควรดูรายละเอียดและแก้ปัญหา”

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่างานการข่าวมีแต่สั่งให้ทำเข้มข้น แล้วเงินในการทำการข่าว งบประมาณการข่าวมันถึงมือเจ้าหน้าที่การข่าวหรือไม่ ส่วนที่มีการพูดว่าเราซีลแนวชายแดนแม่น้ำสุไหงโกลคได้ผล ทำให้ขบวนนอกกฏหมายไม่สามารถจะค้าขายในระหว่างสองประเทศได้ ทำให้ผลประโยชน์ที่ขบวนการมีอยู่หายไป ทำให้ BRN หันมาปล้นร้านทองนั้น ตรงนี้เราพูดเข้าข้างตัวเอง เหตุการณ์ปล้นร้านทองในพื้นชายแดนภาคใต้ไม่ใช่เพิ่งเกิดที่สุไหงโกลกครั้งแรก มันเกิดมาแล้ว 4-5 ครั้ง การปล้นร้านทองเพราะเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจ การค้าในพื้นที่ ทำให้เศรษฐกิจในพื้นสุไหงโกลก ซบเซา เป็นการทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่ของ BRN ที่ตนกล้าพูดเพราะขบวนการค้าของเถื่อนตลอดลำน้ำสุไหงโกลกยังอยู่ได้ทุกขบวนการ วันนี้รัฐไม่มีปัญญาซีลช่องทางธรรมชาติตลอดแนวแม่นำสุไหงโกลก ตั้งแต่ อ.แว้ง- อ.ตากใบ หากทำได้จะสามารถป้องกันเหตุร้ายได้อย่างน้อย 50%

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่า เมื่อมีการก่อเหตุร้ายทุกครั้ง โจรจะหนีไปหลบช่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน มาจากเราซีลแนววชายแดนไม่ได้ผล งานการข่าวไม่ดีเลย โจรเข้ามาเมื่อไหร่ ปล้นเสร็จแล้วออกทางไหน ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านไม่มีความร่วมมือที่ดีและชัดเจน ทำให้เพื่อนบ้านให้พื้นที่ ที่อยู่อาศัยของขบวนการตั้งฐานที่มั่นแล้วมาก่อเหตุในสามจังหวัดของเรา.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้