Last updated: 23 ส.ค. 2568 | 33 จำนวนผู้เข้าชม |
กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา ยกคณะใหญ่ถก “กอ.รมน.-สมช.-มท.” ขันน็อตความมั่นคง ดันหนุนเสริมขับเคลื่อนงานความมั่นคงชาติเป็นเนื้อเดียวกันทุกมิติ
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เดินทางไปศึกษาดูงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)นำโดยนายสมบูรณ์ หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ รองประธาน คนที่สาม นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เลขานุการและโฆษก นางสาวนวลนิจ หงส์วิวัฒน์ รองเลขานุการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นิฟาริด ระเด่นอาหมัด ประธานที่ปรึกษา นางสาววิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์กรรมาธิการ ซึ่งได้รับการต้อนรับจากพลเอกธงชัย รอดย้อย เลขาธิการ กอ.รมน. กับคณะผู้บริหาร กอ.รมน. รวมถึงที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยด้านความั่นคง และผู้แทนจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับผลการบังคับใช้และแนวทางการแก้ไขกฎหมายความมั่นคง ดังนี้
1.ผลการดำเนินงานของ กอ.รมน.ตามพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ของ กอ.รมน.ในปัจจุบันมีตัวชี้วัดเพื่อสะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ของงานที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลทั้งปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาการแก้ไขยาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมและปัญหาที่ส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมอันกระทบกับความมั่นคงของชาติ
ทั้งนี้กมธ.มีข้อสังเกตว่า กอ.รมน.ถือว่าเป็นองค์กรด้านอำนวยการและประสานงานอย่างบูรณาการของทุกหน่วยงานความมั่นคงให้ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความมั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงควรปรับเฉพาะบางเรื่องที่ยังเห็นว่ามีข้อจำกัดหรือไม่สอดคล้องกับภารกิจตามกฎหมาย
2.ผลการดำเนินงานของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การป้องกัน การปราบปรามภัยด้านความมั่นคงต่าง ๆ
ตลอดจนการดำเนินให้หน่วยงานของรัฐฝ่ายความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ
ซึ่งกมธ.มีข้อสังเกตว่า สมช. ถือว่าเป็นองค์กรหลักด้านความมั่นคงของประเทศ
เพื่อให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานของรัฐด้านความมั่นคงไปปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จความมั่นคงของประเทศ จึงควรพิจารณาแนวทางพัฒนาระบบกลไกโครงสร้างงานความมั่นคงที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่หลายหน่วยงานกับหลายภารกิจที่ยังมีความทับซ้อนกันสมช.อาจพิจารณาภาพรวมเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนที่เปิดกว้างสู่สาธารณะ
3.กระทรวงมหาดไทยได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจ อำนาจ และหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงภายในในการบังคับใช้พระราชบัญญัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2540 กับการบริหารจัดการการรักษาความมั่นคงภายในร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีอาสารักษาดินแดน (อส.)ประมาณ 27,000 คน และประมาณร้อยละ 40 อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ปัจจุบันมีประมาณ 670,000 คน เป็นผู้ที่ช่วยเหลือกระทรวงและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่เป็นกลไกสำคัญของการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่นั้น
โดยกมธ.มีข้อสังเกตว่า กระทรวงมหาดไทยควรผลักดันและขับเคลื่อนโครงการที่ครอบคลุมการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในเพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนในระดับพื้นที่หรือการปกครองท้องที่ที่มีอาสารักษาดินแดน (อส.) และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เป็นกลไกสำคัญอย่างเข้มแข็ง รวมถึงขอให้เข้าไปตรวจสอบการดำเนินงานและการบริหารจัดการ อส.และชรบ.ให้มีความโปร่งใสเพื่อป้องกันไม่ให้ อส.และชรบ.ถูกเจ้าหน้าที่ที่ไม่สุจริตเอาเปรียบ
ทั้งนี้กมธ.จะนำข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้รับไปจาก กอ.รมน. สมช. และมท.ไปพิจารณาดำเนินการและสนับสนุนภายใต้กรอบบทบาท หน้าที่และอำนาจของกมธ.ทหารตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่อไป.