Last updated: 24 ก.ค. 2568 | 97 จำนวนผู้เข้าชม |
“สว.นพดล” เสนอผลศึกษา 5 แนวทางแก้ปัญหาการลักลอบพาดสายสื่อสารเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน มั่นใจเอาอยู่จัดระเบียบได้ครบถ้วนยั่งยืนแน่
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (ฝั่ง สส.) นายนพดล พริ้งสกุล รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา แถลงข่าวเรื่อง “การเชื่อมต่อสายสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยโครงข่ายภาคพื้นดินของสายเคเบิลใยแก้วนำแสง” สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศฯ มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการศึกษากฎหมาย ด้านการสื่อสาร การโทรคมนาคม และดิจิทัล
เพื่อเศรษฐกิจและสังคม พิจารณาศึกษา เรื่อง “การจัดระเบียบสายสื่อสาร การนำสายสื่อสารลงใต้ดิน และการเชื่อมต่อสายสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้าน”
ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯ ทำการศึกษาเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการจัดระเบียบสายสื่อสาร การนำสายลงใต้ดิน และการเชื่อมต่อสายสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญต่อบริบทการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศให้เหมาะสมและสอดคล้องกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ การศึกษาเรื่องดังกล่าวเพื่อสร้างความเข้าใจและเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับปัญหาพื้นฐานในยุคปัจจุบัน นำไปสู่การพัฒนากฎหมายเทคโนโลยีและโทรคมนาคมให้เท่าทันโลก
นอกจากการจัดระเบียบสายสื่อสารและการนำสายสื่อสารลงใต้ดินแล้ว ยังมีกรณีการลักลอบลากสายสัญญาณเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก เอื้อต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) หลอกลวงคนไทยได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังเป็นการตั้งฐานส่งสัญญาณในประเทศไทยอีกด้วย คณะอนุกรรมาธิการฯ จึงมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อประเด็นการลักลอบพาดสายสื่อสารเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนี้
1.กสทช. เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการดำเนินการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ไม่สามารถตรวจสอบการให้บริการด้านโทรคมนาคมได้ แต่สามารถตรวจสอบได้เพียงว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมหรือไม่เท่านั้น โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจะนำโครงข่ายไปให้บุคคลใด หรือโครงข่ายใดเช่าช่วงต่อไป
2.กรณีขอใช้บริการเชื่อมต่อสายสื่อสารพาดขึ้นบนสะพานเชื่อมต่อระหว่างประเทศ แขวงทางหลวง กระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้ดูแลก็ไม่สามารถทำการตรวจสอบการเชื่อมต่อสายสื่อสารขึ้นบนสะพานได้ว่ามีสายสื่อสารแปลกปลอม (สายสื่อสารที่ไม่ได้รับอนุญาต) ไปด้วยหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบในขณะดำเนินการลากสายสื่อสาร เพียงแต่ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งได้รับอนุญาตจาก กสทช. เท่านั้น และการตรวจสอบสายสื่อสารในการพาดสายขึ้นบนสะพานเป็นปัญหาทางเทคนิคในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ (แขวงทางหลวง) 3. กรณีที่มีการลากสายสื่อสารไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. นั้น ทาง กสทช. และแขวงทางหลวงไม่สามารถดำเนินการตัดสายสื่อสารหรือรื้อถอนได้ เพราะไม่มีระเบียบหรือกฎหมายใดให้อำนาจไว้
4.ควรมีระเบียบหรือกฎหมายให้หน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ดำเนินการในการพาดสายสื่อสารเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อความมั่นคงทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 5. ระบบไมโครเวฟที่ติดตั้งเสาและจานไมโครเวฟที่มีทิศทางของจานหันไปในทิศทางประเทศเพื่อนบ้าน ควรมีมาตรการควบคุมความแรงของสัญญาณในการส่ง และควรมีเครื่องมือในการตรวจสอบสัญญาณตลอดเวลา.