Last updated: 21 ก.ค. 2568 | 46 จำนวนผู้เข้าชม |
“ทวี”เสนอ 3 แนวทางคุ้มครองแรงงานข้ามชาติปลุกทุกภาคส่วนทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบในอาเซียน ภายใต้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
เมื่อวันที่ 21 ก.ค.พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมระดับภูมิภาคอาเซียน: สัปดาห์ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน Bangkok Business and Human Rights Week 2025 ชี้ เศรษฐกิจยั่งยืนเริ่มต้นที่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 กรุงเทพฯ โดยการประชุมครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำ เช่น องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM)
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการหารือเรื่องสถานการณ์การเคลื่อนย้ายแรงงานในเชิงเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับมิติสิทธิมนุษยชนและบทบาทของภาคธุรกิจ ซึ่งอาเซียนเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก ด้วยประชากรกว่า 600 ล้านคน และแรงงานข้ามชาติกว่า 10 ล้านคนอย่างไรก็ตามแรงงานข้ามชาติยังคงเผชิญกับความเปราะบางด้านสิทธิ ความไม่เท่าเทียม และการถูกเอารัดเอาเปรียบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ 4 ประเภทหลัก ได้แก่ การค้ามนุษย์ (Human Trafficking), การลักลอบขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย (Smuggling of Migrants), การลักลอบค้ายาเสพติด (Drug Trafficking) และ อาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cybercrime) ซึ่งการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศ
"ภาคธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้ถูกประเมินจากผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังถูกวัดด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสิทธิมนุษยชน"รมว.ยุติธรรม กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตนขอเสนอแนวทางความร่วมมือระดับภูมิภาค 3 ประการ เพื่อส่งเสริมการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบในอาเซียน 1.การสร้างมาตรฐานแรงงานอาเซียนร่วมกัน (ASEAN Labour Standards): เพื่อให้แรงงานทุกประเทศได้รับการคุ้มครองขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะทำงานในประเทศใด 2.การส่งเสริมธุรกิจที่มีความรับผิดชอบในอาเซียน (ASEAN Responsible Business Conduct): เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจในภูมิภาคยึดหลัก UNGPs และตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานอย่างเข้มงวดและ3.การบูรณาการเทคโนโลยีและระบบยุติธรรมเพื่อแรงงาน (Digital Justice for Migrant Workers)โดยใช้ Big Data, AI และแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้แรงงานสามารถร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น.