"กมธ.เศรษฐกิจฯ วุฒิสภา"แนะรัฐบาล ชะลอ-ปรับลด-ตัดงบก่อสร้างโปรเจคก์หนุนเช่าพื้นที่แทน

Last updated: 16 พ.ค. 2568  |  257 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"กมธ.เศรษฐกิจฯ วุฒิสภา"แนะรัฐบาล ชะลอ-ปรับลด-ตัดงบก่อสร้างโปรเจคก์หนุนเช่าพื้นที่แทน

กมธ.เศรษฐกิจฯ วุฒิสภา แนะรัฐบาล “ชะลอ-ปรับลด-ตัดงบ” ก่อสร้างโปรเจคก์หนุนเช่าพื้นที่แทน ประหยัดภาษีงบประมาณ สร้างความโปร่งใส ปชช.ตรวจง่าย

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ห้องแถลงข่าวสื่อมวลชน ชั้น 1 (ฝั่ง สส.) คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.)ด้านการคลัง ในคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา นำโดยนางสาวชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย ประธานคณะอนุกรรมาธิการ แถลงข่าวเรื่อง “การบริหารงบประมาณโครงการก่อสร้างอาคารของรัฐที่มีผลต่อฐานะการคลังของรัฐบาล” โดยกล่าวว่า ปัจจุบันสังคมกำลังติดตามการจัดสรรและการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างและการปรับปรุงอาคารขนาดใหญ่ของรัฐ เกี่ยวกับความโปร่งใสของกระบวนการ ตลอดจนความจำเป็นและความคุ้มค่า



คณะกรรมาธิการฯ จึงได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณลงทุนเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐ ทำให้ได้ข้อสรุปว่า งบประมาณรายจ่ายลงทุน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐหลายโครงการ ซึ่งเป็นงบผูกพันระหว่างปี พ.ศ. 2565 – 2567 มีวงเงินรวมประมาณ 39,172 ล้านบาท

ทั้งนี้ยังไม่นับรวมงบลงทุนเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐในเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงมีข้อเสนอแนะสำคัญต่อรัฐบาล เพื่อการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อสาธารณะ อาทิ 1. รัฐบาลควรพิจารณาชะลอ ปรับลด หรือตัดโครงการก่อสร้างที่ไม่จำเป็นหรือไม่เร่งด่วนในเชิงเศรษฐกิจหรือสังคม และอาจสร้างภาระงบประมาณระยะยาว

โดยเฉพาะโครงการที่มีลักษณะซ้ำซ้อนหรือให้ประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายจำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการจัดสรรงบประมาณในโครงการที่สร้างผลตอบแทนทางสังคมสูงกว่า และเร่งรัดเบิกจ่ายได้จริงในปีงบประมาณ 2. ส่งเสริมการใช้พื้นที่ร่วมกันหรือเช่าพื้นที่จากภาคเอกชนแทนการก่อสร้างใหม่ เพื่อประหยัดงบประมาณลงทุนระยะยาว ซึ่งอาจมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากกว่าการลงทุนก่อสร้างใหม่ และสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้ยืดหยุ่นกว่า

3. ภาครัฐควรกำหนด “แบบกลาง” สำหรับการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างพื้นฐาน เช่น โรงพยาบาล สถานีตำรวจ โรงเรียน หรือศูนย์ราชการ เพื่อควบคุมคุณภาพ ลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และป้องกันปัญหาความแตกต่างของต้นทุนก่อสร้างโดยไม่มีเหตุผลเชิงวิศวกรรม ทั้งยังช่วยลดระยะเวลาการอนุมัติแบบก่อสร้างและการดำเนินงาน


4. สนับสนุนบริษัทคนไทยในการเข้าร่วมดำเนินโครงการของภาครัฐ โดยเฉพาะในระดับ SMEs และผู้รับเหมาท้องถิ่น ด้วยมาตรการเอื้ออำนวย เช่น การแบ่งสัญญาเป็นขนาดย่อย การให้แต้มต่อในเกณฑ์ประเมิน หรือการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค 5. คืนงบประมาณส่วนเกินและงบประมาณที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้เข้าสู่คลังภายในปีงบประมาณ 2569 เพื่อให้การบริหารงบประมาณโปร่งใสและลดปัญหาเงินคงค้างในระบบ และ 6. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบงบประมาณและโครงการรัฐ เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับรายงานความคืบหน้า การจัดเวทีรับฟังความเห็นระดับพื้นที่ หรือการสนับสนุนภาคประชาสังคมให้เป็นกลไกตรวจสอบคู่ขนาน เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสและความไว้วางใจต่อการใช้งบประมาณแผ่นดิน.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้