"เพื่อไทย"หนุนมาตราการส่งดี เปิดกล่องก่อนจ่าย-คืนเงินได้ใน5วันเริ่ม3ต.ค.นี้

Last updated: 25 ก.ย. 2567  |  3870 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"เพื่อไทย"หนุนมาตราการส่งดี เปิดกล่องก่อนจ่าย-คืนเงินได้ใน5วันเริ่ม3ต.ค.นี้

“เพื่อไทย”หนุน“มาตราการส่งดี” เปิดกล่องก่อนจ่ายเงิน คืนเงินได้ใน 5 วัน คุ้มครองนักช้อปออนไลน์ เตรียมใช้ 3 ต.ค.นี้

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวในโครงการสัมมนาเรื่อง “มาตรการคุ้มครองผู้บริโภคจากสินค้าออนไลน์ที่ไม่ได้มาตรฐาน” ที่ทางกรรมาธิการฯจัดร่วมกับมหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์ บางกอกว่า ในช่วงที่ผ่านมากระแสนิยมการซื้อสินค้า และบริการทางออนไลน์มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีประชาชนจำนวนไม่น้อยประสบปัญหากับการโดนหลอกให้เสียเงินกับสินค้าไม่ตรงปก สินค้าไม่ได้มาตรฐาน หรือแม้กระทั่งสินค้าเก็บเงินปลายทางที่ไม่ได้สั่ง แต่ต้องจ่ายเงินเพื่อรับมาเปิดดูก่อน โดยมีคดีในลักษณะเหล่านี้มากถึง 46.50% ของคดีทางออนไลน์ สะสมตั้งแต่ 1 มี.ค. 65 ถึง 31 ส.ค. 67 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 4,000 ล้านบาท

ทางสำนักงานควบคุมผู้บริโภคภายใต้การกำกับดูแลของ "จิราพร สินธุไพร" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้ออกมาตราการ “ส่งดี” (dee-delivery) ที่จะช่วยทำให้ผู้บริโภคที่ชอบซื้อสินค้าทางออนไลน์ และเก็บเงินปลายทาง ได้รับการคุ้มครอง และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สามารถเปิดพัสดุเช็คของได้ก่อนจ่ายเงิน และมีกลไกหน่วงเงินไว้ที่บริษัทขนส่งสินค้าให้ผู้ซื้อสามารถขอเงินคืนได้ภายใน 5 วัน ซึ่งมาตรการนี้ได้มีการหารือทำความเข้าใจทั้งกับผู้ให้บริการแพลทฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ และขนส่งแล้ว และจะมีผลบังคับใช้เป็นการทั่วไปตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.นี้

ทั้งนี้นางสาวขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนและสภาพปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ร่วมเสวนาในงานฯกล่าวถึงประเด็นปัญหาของประชาชนที่มีข้อร้องเรียนต่อ กรรมาธิการฯ จำนวนมากส่วนใหญ่จะเป็นการไม่ได้สั่งซื้อสินค้าแต่มีพัสดุจัดส่งไปยังบ้านพัก และถูกเรียกเก็บเงินปลายทาง หรือจะเป็นการที่ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าแล้วประสบปัญหาสินค้าไม่ได้คุณภาพ และไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้ ซึ่งที่กล่าวล้วนเป็นปัญหาที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย และปัญหานี้ก็เป็นปัญหาสะสมอย่างยาวนานไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเข้มงวดมากขึ้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งดำเนินการแก้ไขเพื่อปกป้องสิทธิและความปลอดภัยของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ประชาชนใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เข้าถึงการซื้อขายได้อย่างง่ายได้

“ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นปัญหาเรื้อรังที่รัฐบาลเพื่อไทยกำลังเร่งสะสาง มาตรการส่งดีนี้ จะเป็นอีกกลไกหนึ่งที่ช่วยให้ความปลอดภัยทางทรัพย์สินกับพี่น้องประชาชน และช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อการทำธุรกิจในประเทศได้ ผ่านการสร้างความร่วมมือกับเอกชนที่เกี่ยวข้อง และประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับรู้ต่อสังคมในวงกว้างเพิ่มขึ้น” นายชนินทร์กล่าว

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ...วุฒณ์-สมุทรปราการ.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้