Last updated: 24 ต.ค. 2568 | 66 จำนวนผู้เข้าชม |
สปส. ชี้แจงประเด็นการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นการปรับสูตรบำนาญ “สูตร CARE”
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) กล่าวถึงการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) ในวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้รับทราบผลการแสดงความคิดเห็น และรับทราบถึงกรณีที่มีผู้ยื่นหนังสือคัดค้านการประชาพิจารณ์บำนาญสูตร CARE ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-17 ตุลาคม 2568 ซึ่งที่ประชุมให้ความเห็นว่าการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.2562

ดังนั้นสำนักงานประกันสังคมจึงได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นผ่านช่องทางอื่น ๆ เพิ่มเติมจากวิธีการพื้นฐานตามข้อบังคับของกฎหมาย ได้แก่ ช่องทาง Line OA รวมถึงช่องทางหน่วยบริการของสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ และการประชุมรับฟังความคิดเห็น “การปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39” ที่โรงแรม ดิ เอ็มเมอรัลด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 โดยมีการ Live สดผ่าน Facebook ของสำนักงานประกันสังคมตลอดระยะเวลาการประชุมด้วย ซึ่งสามารถรับชมย้อนหลังได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม และสื่ออื่น ๆ อาทิ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นทั้งสิ้น 102,010 ราย พบว่ามีผู้เห็นด้วย 79,498 ราย หรือกว่า 77% และผู้ไม่เห็นด้วย 22,512 ราย คิดเป็น 22% ซึ่งจำนวนผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นจากทุกช่องทางถือเป็นจำนวนที่มากเพียงพอตามหลักสถิติที่จะใช้ในการดำเนินงานต่อไป
คณะอนุกรรมการฯ ยังให้ความเห็นถึงการที่มีผู้คัดค้านอาจเนื่องจากมีความเข้าใจสูตรการคำนวณที่ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะข้อมูลในประเด็นเกี่ยวกับค่าจ้างเฉลี่ยที่นำมาคำนวณแต้มบำนาญ (Pension Point) และค่าจ้าง 60 เดือนสุดท้ายของระบบที่นำมาคำนวณบำนาญ โดยค่าจ้างเฉลี่ยของระบบที่คำนวณได้ใหม่ในแต่ละเดือนจะต้องไม่น้อยกว่าเดือนก่อนหน้า อีกทั้งสูตรบำนาญใหม่ (CARE) แม้เจ้าหน้าที่อธิบายให้เข้าใจได้แล้ว แต่อาจยากสำหรับผู้ประกันตนที่จะนำไปสื่อสารต่อกับผู้อื่น โดยที่ประชุมได้แนะนำให้สำนักงานประกันสังคมจัดทำสื่อที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ สำหรับผู้ที่จะรับบำนาญในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี นับจากกฎหมายใช้บังคับ อาจมีผู้ได้รับผลกระทบบ้าง แต่จำนวนไม่มาก เช่น กลุ่มผู้ประกันตนที่มีค่าจ้างสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีสุดท้ายของการทำงาน แต่จะได้รับการชดเชยส่วนต่างให้ตลอดชีวิต ส่วนผู้ที่ได้รับบำนาญไปแล้ว หากบำนาญตามสูตรใหม่สูงกว่าบำนาญเดิมก็จะได้รับการปรับเพิ่มบำนาญตามสูตรใหม่ นับแต่ที่สูตรบำนาญใหม่มีผลใช้บังคับ ซึ่งข้อดีอีกประการของบำนาญสูตร CARE คือการนำระยะเวลาทุกงวดเดือนของการนำส่งเงินสมทบมาคำนวณบำนาญ โดยจะได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นในอัตราเดือนละ 0.125% เมื่อส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน ซึ่งสูตรเดิมหากผู้ประกันตนส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน จะได้รับบำนาญเพิ่ม 1.5% ต่อเมื่อส่งเงินสมทบครบทุกๆ 12 เดือน และที่ประชุมได้เสนอแนะให้สำนักงานประกันสังคมตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่รับบำนาญในช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎกระทรวงได้ทันท่วงที ในการนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมรายงานผลการรับฟังความคิดเห็น และการยื่นหนังสือคัดค้านของผู้ประกันตนบางกลุ่มต่อคณะกรรมการประกันสังคมต่อไป
ด้านนางนิยดา เสนีย์มโนมัย โฆษกสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงเพิ่มด้วยว่า เรื่องการปรับสูตรบำนาญ สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบ อันจะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกันตนยิ่งขึ้น โดยได้มีการจัดประชุมรับฟังความเห็นทั่วประเทศในช่วงเวลานั้นรวม 12 ครั้ง ซึ่งในช่วงเวลานั้น การสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ยังไม่หลากหลายและไม่สะดวก เท่าในปัจจุบัน จากนั้นได้รวบรวมทุกความเห็นจากการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวมาใช้ในการปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้คณะกรรมการประกันสังคมชุดปัจจุบันได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง การพัฒนาปรับปรุง สิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน จึงแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) ขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ เป็นการเฉพาะ

สำนักงานประกันสังคม ขอยืนยันว่า กระบวนการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับบำนาญสูตร CARE ได้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างแท้จริง และขอขอบคุณทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับ ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาและปรับปรุงสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ประกันตนทุกคน ทั้งนี้ สปส.จะนำผลสำรวจและข้อเสนอแนะที่ได้รับ เสนอให้คณะอนุกรรมการและคณะกรรมการประกันสังคม พิจารณาแก้ไข ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกันตนต่อไป โฆษกสำนักงานประกันสังคมกล่าวในตอนท้าย