"กมธ.ทหาร วุฒิสภา"ดีเดย์ 24 กค. เรียกนายกฯแจงปมปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

Last updated: 14 ก.ค. 2568  |  352 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"กมธ.ทหาร วุฒิสภา"ดีเดย์ 24 กค. เรียกนายกฯแจงปมปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กมธ.ทหาร วุฒิสภาเข้ม ดีเดย์ 24 กค. เรียกนายกฯ แจงปมปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พ่วงแก้สถานการณ์ไฟใต้ ชี้ 16 กค.อุ่นเครื่องเสวนาความมั่นคงกับอนาคตประเทศไทยผ่าน 3 กูรูผู้เชี่ยวชาญใหญ่

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ด้านความมั่นคง ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ยังมีการยั่วยุจากฝ่ายกัมพูชา และมีการปิดพรมแดนที่ส่งผลกระทบทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน รวมทั้งปัญหาการก่อความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมีการก่อเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง


ดังนั้น กมธ.ทหารฯจึงมีมติให้เชิญนายกรัฐมนตรี มาแถลงถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ และขอทราบนโยบายในการแก้ปัญหา ตามรายละเอียดดังนี้
1.การเรียกนายกรัฐมนตรีมาแถลงข้อเท็จจริงและหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติกรณีปัญหาพื้นที่ชายแดนประเทศไทย เพราะกมธ.ได้รับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงต่าง ๆ ตามที่ปรากฏเผยแพร่ต่อสาธารณะต่อกรณีข้อพิพาทบริเวณแนวชายแดนไทยที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และผลประโยชน์ของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยพิจารณาเห็นว่าข้อพิพาทบริเวณแนวชายแดนไทย เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างสูงยิ่งต่อการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และสภาพจิตใจของพี่น้องประชาชนคนไทยผู้รักชาติ อีกทั้งฝ่ายกัมพูชาได้ดำเนินการทุกวิถีทางอันไร้ความจริงใจและความพยายามเพื่อให้ได้เปรียบประเทศไทยอย่างถึงที่สุด อีกทั้งภายใต้กรอบบทบาทหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติไว้ กมธ.จึงเห็นว่ามีความจำเป็นและเหตุในการเรียกนายกรัฐมนตรีมาแถลงข้อเท็จจริงกรณีปัญหาทางทหารและความมั่นคงพื้นที่ชายแดน ในวันที่ 24 กรกฎาคม ในการประชุมกมธ.ทหารฯในประเด็นข้อซักถาม ดังนี้

1) ประเด็นจุดยืนและแนวปฏิบัติข้อพิพาทบริเวณพื้นที่ชายแดนประเทศไทย – ประเทศกัมพูชา (กรณีเร่งด่วน) จำนวน 12 ข้อ อาทิ จุดยืนต่อ MOU พ.ศ. 2543 และ MOU พ.ศ. 2544 หรือการละเมิด MOU อย่างต่อเนื่องจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 มีหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงการต่างประเทศหลายร้อยฉบับ หรือการแก้ไขปัญหาและยุติการรุกล้ำขยายชุมชนของชาวกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนไทยอย่างเด็ดขาดเป็นต้น 2) ประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 5 ข้อ อาทิ การแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้การปฏิบัติการในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ มีความยุติธรรม และคุ้มครองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หรือการปกป้องและดูแลประชาชนชาวไทยทุกกลุ่มในพื้นที่ โดยเฉพาะชาวไทยพุทธที่ยังอยู่ในพื้นที่ เป็นต้น

3) ประเด็นความปลอดภัยไซเบอร์และการต่อต้านการฟอกเงิน จำนวน 2 ข้อ อาทิ การขจัดธุรกรรมผิดกฎหมายหรือที่ต้องสงสัยเพื่อป้องกันหรือปราบปรามและช่วยเหลือคนไทยให้ปลอดภัยจากฉ้อโกงออนไลน์และการฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนต่างชาติด้วยระบบ AI และ Machine Learning อย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา ยังมีการจัดเสวนาเรื่อง “ความมั่นคงกับอนาคตประเทศไทย”วันที่ 16 กรกฎาคม นี้ เวลา 13.00 – 16.30 น. ที่ห้องประชุม หมายเลข 406-407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) เพื่อให้วุฒิสภาเป็นเวทีในการรับฟัง รับรู้ ถกแถลงแนวคิดและแลกเปลี่ยนมุมมองในหลายมิติของข้อคิดเห็น อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่เกิดขึ้น และมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของประเทศไทยที่มั่นคง เพื่อให้พร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา

โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ร่วมเวทีเสวนาทางวิชาการ เช่น รองศาสตราจารย์ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการอิสระด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองเปรียบเทียบ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ,รองศาสตราจารย์ ดร.ธนพร ศรียากูล นักวิชาการด้านการเมือง ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์นโยบายและการเมือง ผู้ให้ความเห็นและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้