Last updated: 6 มิ.ย. 2568 | 276 จำนวนผู้เข้าชม |
“ทูตจีน”เข้าอำลาตำแหน่งต่อประธานวุฒิสภา สะท้อนสัมพันธ์แน่นแฟ้น 2 ชาติ เผยซาบซึ้งพี่จีนช่วยเหลือไทยเสมือนเป็นญาติสนิทมายาวนาน
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทึ่ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาให้การรับรองนายหาน จื้อเฉียง (H.E. Mr. Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ที่มาเข้าเยี่ยมคารวะเพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยมีนายชิบ จิตนิยม รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ และศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม ร่วมให้การรับรอง
ประธานวุฒิสภา กล่าวขอบคุณและชื่นชมเอกอัครราชทูตฯ ที่ได้ปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างดีเยี่ยมในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย – จีน ทำให้การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปด้วยดีในทุก ๆ ด้านมาโดยตลอด และขอขอบคุณอีกครั้งที่ได้ช่วยเหลือประชาชนชาวไทยจากภัยน้ำท่วมและแผ่นดินไหว โดยระดมทุนจากชาวจีนมาช่วยเหลือประเทศไทยเสมือนเป็นญาติสนิทกัน และเกิดความซาบซึ้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้คณะกรรมาธิการของวุฒิสภามีโอกาสเดินทางเยือนจีนหลายคณะกรรมาธิการฯ อาทิ คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคมและได้นำแนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการรับมือกับภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีมาในการหลอกลวง รวมทั้งการรับมือกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและปัญหาสิ่งแวดล้อม หากมีโอกาสอยากจะเดินทางศึกษาดูงานเกี่ยวกับด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ประธานวุฒิสภากล่าวแสดงความยินดีให้การต้อนรับและให้ความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตฯ ท่านใหม่ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ และขออวยพรให้เอกอัครราชทูตฯ ประสบความสำเร็จต่อไป
ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า จากการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตฯ เป็นเวลา 3 ปี 10 เดือน ได้เป็นสักขีพยานในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และขอขอบคุณประธานวุฒิสภาที่ได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ปัจจุบันการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปด้วยดี และการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น มีคณะกรรมาธิการหลายคณะจะเดินทางเยือนจีน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประธานวุฒิสภาจะมีโอกาสเดินทางเยือนจีนในโอกาสอันใกล้ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีน - ไทย จะส่งผลประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป.