อย่าให้“น้ำผึ้งหยดเดียว”ทำองค์กรป่วน รับฟัง-ให้อภัยใจเป็นสุข

Last updated: 27 ก.ค. 2565  |  921 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อย่าให้“น้ำผึ้งหยดเดียว”ทำองค์กรป่วน รับฟัง-ให้อภัยใจเป็นสุข

อย่าให้ความบาดหมาง-อคติกลายเป็น“น้ำผึ้งหยดเดียว”มาทำลายล้างองค์กร เปิดเรื่องเล่าในตำนาน นาทีระทึก “เหยี่ยวขาว”ถูกบุกจับตรวจค้นยา-ต่างด้าว สุดท้าย “พลาดครับนาย”โมโหพร้อมชนเอาคืนทุกรูปแบบ แต่คิดได้กับคำที่ว่า “ผมทำตามหน้าที่ ขอโทษครับพี่”

-การรักองค์กร-ศรัทธาองค์กรเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็อย่ารักจนถึงขั้นใครแตะต้องไม่ได้ อย่างเช่นตัวอย่างหลายวันก่อนมีหน่วยงานหนึ่งไปจับเจ้าหน้าที่รัฐอีกหน่วยงานหนึ่งซึ่งทำผิดกฎหมาย ปรากฏว่าสร้างความไม่พอใจให้กับคนในองค์กรบางคน(หรืออาจจะไม่ใช่)ที่ถูกจับเป็นอย่างมาก กางตำราเปิดศึก“น้ำผึ้งหยดเดียว”ถล่มทางโซเชียลมีเดียหมายให้ 2 องค์กรเกิดความแตกแยกให้ได้ “เหยี่ยวขาว”เองเข้าใจทั้ง 2 กลุ่มเป็นอย่างดี รู้จัก-เคารพการทำงานทั้ง 2 องค์กร อย่างที่เคยกล่าวมาเป็นประจำสมัยทำงานให้กับสื่อแห่งหนึ่ง อย่าเหมารวม!!ทุกองค์กรทุกหน่วยงานมีทั้งคนดี และคนไม่ดี สื่อฯเองก็ไม่ต่างจากพวกท่าน มีเลวมีดีปะปนกันไปอยู่ที่ว่าใครจะเลือกคบด้านมืดหรือด้านสว่างเท่านั้นเอง!!!



-เป็นเรื่องปกติการทำงานบางครั้งก็อาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ต้องดูที่เจตนา และหน้างานเป็นหลัก พร้อมกับเปิดใจรับฟังเหตุ-ฟังผลด้วย!!พูดถึงเรื่องกระทบกระทั่งขอเล่าเรื่องที่เกิดกับตัวเอง ซึ่งมันสามารถส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของคนในอีกองค์กรหนึ่งได้เหมือนกัน!! ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เหตุเกิดช่วงเย็น ๆ ใกล้ป้ายรถเมล์ย่านชานเมือง ขณะเดินผ่านตึกเก่าๆหารถไปงานเลี้ยง จู่ ๆ มีรถเก๋งสีขาวขับพรวดพราดปาดหน้าก่อนที่ชาย 2 คนเปิดประตูวิ่งกรูเข้าประชิดตัวในมือมีอาวุธปืนพร้อมส่งเสียงดัง “เมิงหันหลังยืนชิดผนังชูมือขึ้น” ในใจคิดงานเข้าแล้วกรูโดนตำรวจค้นยาบ้า...ประทานโทษเกิดมายังไม่เคยแตะต้องเลย เคยแต่ทำข่าว!!!



-ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ก็รีบบอกไปว่าแบบมือให้ดูก่อน ทำเอาคู่กรณีไม่สบอารมณ์ตะคอกใส่“เมิงหัวหมอเหรอ กูไม่ยัดเมิงหรอก”พร้อมกับเสียงจาก ว.ที่ชายฉกรรจ์ถืออยู่ดังขึ้น “ว่าไงได้ของกลางเท่าไหร่ มันเป็นใครชื่ออะไรว่ะ”ปลายสายตอบไปว่า “ค้นแล้วไม่มีครับนาย” บอกตรงๆตอนนั้นโมโหกับคำพูด และการกระทำที่ทำเหมือนเราไม่ใช่คน เมื่อไม่เจอของกลางคู่กรณีตะคอกต่อว่า“เมิงเอาบัตรประชาชนมาให้กุดูหน่อย คนไทยหรือป่าวว่ะ”เอาแล้วไงเปลี่ยนข้อหาจับยามาจับต่างด้าวซะแล้ว!! ลืมเอามามีแต่บัตรพนักงาน....เอาออกมาให้กรูดูเมิงทำงานที่ไหน!!และแล้วช่วงนาทีระทึกก็มาถึงอีกฝ่ายเห็นบัตรพนง.ระบุชัดเจนระบุเป็นสื่อฯสำนักหนึ่ง ทั้ง 2 คนถึงกับหน้าถอดสี บังเอิญเสียง ว.ดังขึ้นอีกครั้ง “รู้ยังมันเป็นใคร” ตอบกลับ “พลาดครับนายพี่เขาเป็นนักข่าวที่....” เสียงที่ตามมาคือ...เวรแล้วไงจับผิดตัว พวกเอ็งรีบปล่อยเขาไปเลยเร็ว!!!


-ขณะเดินจ้ำอ้าวกลับขึ้นรถ คว้าแขนไว้ได้คนหนึ่งก่อนถามว่า จะรีบไปไหนคุยกันก่อน เมื่อกี้ทำอะไรผม ดาบยกมือไหว้ตอบเสียงสั่น“พี่ผมขอโทษ ผมทำตามหน้าที่ ไม่รู้ว่าพี่เป็นนักข่าว ขอโทษจริงๆครับอย่าเอาเรื่องเลยผมจะเดือดร้อน”!! โกรธ-เล่นงานคืน-เอาเรื่องให้ถึงที่สุดมันคืออารมณ์ขณะนั้น พรรคพวกสื่อหลายสำนักก็บอกให้ลุย แต่...หลังเกิดเรื่องมานั่งคิดทบทวนความคิดจะเอาคืนถูกลบออกจากสมองทันทีด้วยคำว่า“หน้าที่”มันคือหน้าที่ของเขา เขาทำงานตามที่สายรายงาน มันผิดพลาดตรงเป้าหมายซึ่งเป็นเรื่องที่อาจจะผิดพลาดกันได้ ที่สำคัญการยกมือไหว้ขอโทษเป็นสิ่งที่น่านับถือ ผิดแล้วยอมรับผิด อีกอย่างหน้าตา-การแต่งตัว-บุคลิกเราอาจดึงดูดเรียกแขกก็ได้ สุดท้ายจบคือจบ...อย่าให้ความโกรธ-อคติมาทำลายใคร...ให้อภัยเท่ากับใจเป็นสุข!!!




 ประชาสัมพันธ์ส่องตำรวจ-ตรวจโรงพัก

-บริจาคโลหิต...พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 มอบหมายให้ พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ รอง ผบช.ภ.6 เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “ในหลวง ร.10” เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 70 พรรษา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รอง ผบช.ภ.6, จิตอาสา904,ข้าราชการตำรวจจิตอาสาในสังกัดตำรวจภูธรภาค 6, ชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 6,หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมฯ โดยนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าฯพิษณุโลก ได้เดินทางมามอบของที่ระลึกและให้กำลังใจผู้ที่ร่วมบริจาคโลหิต ที่ห้องประชุม 1 ตำรวจภูธรภาค 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก!!

-ชุมชนยั่งยืน....พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู มอบหมายให้ พ.ต.อ.อัษดิน  สมศรี รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู หัวหน้าคณะทำงานตามโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญ-กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู มุ่งเน้นให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดในชุมชนให้หมดสิ้นไปอย่างยั่งยืน!!


-จิตอาสา....จิตอาสา เราไม่ทิ้งกัน” อยู่ไกลแค่ไหนพวกเราก็จะไปหาฯ ตำรวจทางหลวงด่านช้าง,พระแท่น จัดกิจกรรมจิตอาสาฯร่วมกับผู้นำชุมชน ทำกิจกรรมจิตอาสามอบเครื่องใช้ไฟฟ้าแก่ผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ ที่หมู่บ้านตลุงใต้ ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ขณะที่ตำรวจทางหลวงศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ให้ความรู้ด้านกฎหมายจราจร และ พ.ร.บ.รถยนต์ แก่นักเรียนที่ขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมา โรงเรียนเอง พร้อมมอบหมวกนิรภัยให้แก่นักเรียนที่ไม่มีหมวกนิรภัย ที่โรงเรียนศรีประจันต์"เมธีประมุข" ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี!!

-ตร.พอเพียง....พ.ต.อ.วรวิทย์ สีมาพล ผกก.สภ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด และประชาชนจิตอาสา พร้อมใจกันปลูกข้าวดำนาบริเวณด้านหน้าโรงพักเพื่อแบ่งปั้นให้กับข้าราชการตำรวจ และครอบครัวตามโครงการอาหารกลางวัน ทั้งนี้เป็นการปลูกฝังให้ตำรวจทุกนายใช้ชีวิตอย่างพอเพียง!!



-รายงานผล....พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี มอบหมายให้ พ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี รายงานผลการตรวจและประเมินคะแนนโครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 จากคณะกรรมการตรวจประเมินโครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านระบบ ZOOM ที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมและสั่งการ สภ.เมืองสุพรรณบุรี!!

-ชนะเลิศ....ขอแสดงคยินดีกับ พ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ที่ส่งทีมชุดสืบสวนเข้าประกวดจนได้รับรางวัลชนะเลิศกลุ่ม 2 ในการประกวดฝึกยุทธวิธีตำรวจ ชุดปฏิบัติงานสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 ประจำปี 2565!!



คอลัมน์...ส่องตำรวจ-ตรวจโรงพัก

           “เหยี่ยวขาว”

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้